top of page

เรียนภาษาอังกฤษประเทศไหนดี

คำถามที่ปวดหัวผู้ปกครองและนักเรียนที่สุดคือ มีประเทศที่ถือเป็นเจ้าของภาษา(อังกฤษ) ในโลกนี้อยู่ 5 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

จะเลือกประเทศอย่างไรให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงอายุของผู้เรียน อาทิ 9-12 ปี, 13-16 ปี, 17-18 ปี และ 19 ปีขึ้นไป

ไม่มีคำตอบไหนที่ถูกต้องที่สุด!

Anchor 1

ปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ใช้ประกอบการตัดสินใจมีดังนี้

อาร์ตอินอิงลิช ขอเสนอ 4 แนวคิดหลักประกอบการพิจารณา ทั้งนี้หากท่านมีความต้องการหรือปัจจัยเฉพาะบางอย่างที่มีนัยยะสำคัญ อาทิ มีญาติอยู่อาจคอยช่วยเหลือได้ หรือพ่อหรือแม่ของนักเรียนเคยเรียนที่เมืองนี้ ปัจจัยที่กำลังจะกล่าวถึงคงไม่มีผลใดๆต่อการตัดสินใจ

สำเนียงภาษา

ประเด็นนี้ถือว่าเป็นค่านิยมที่อาจจัดได้ว่าโบราณพอสมควร สำหรับเด็กรุ่นใหม่ยุคปี 2000 เป็นต้นไป เพราะสำเนียงเป็นเรื่องเฉพาะของพื้นถิ่นที่ไม่สามารถเลียนกันได้เมื่อนักเรียนมีอายุมากขึ้น หรืออยู่ในระบบการศึกษามาระยะหนึ่งในประเทศของตน การเลือกประเทศที่สื่อสารเป็นทางการด้วยภาษาอังกฤษและใช้สำเนียงกลางๆถือว่าดีพอสำหรับการเลือกศึกษาต่อทั้งระยะสั้นและระยะยาว

ค่าใช้จ่าย ค่าเรียน ค่าที่พักและค่าครองชีพ

 

ด้วยค่าเงินบาทในปัจจุบัน ไม่มีประเทศไหนที่มองโดยภาพรวมและตัดสินได้ว่าประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด (ขอละคำว่า “ถูก” ที่สุดไว้ เพราะสำหรับเราชาวไทย ไม่มีการศึกษาต่างประเทศที่ใดที่ถูก ทุกประเทศล้วนมีค่าครองชีพสูงกว่าไทยทั้งสิ้น) หากจะจัดกลุ่มประเทศที่มีค่าครองชีพและค่าเรียนพอรับได้สำหรับการลงทุนเพื่อการศึกษา อาจแบ่งเป็น2กลุ่ม กลุ่มแรกได้แก่แคนาดา นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย กลุ่มที่สองได้แก่ สหรัฐและสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับเมืองที่ผู้เรียนเลือกเรียนเป็นสำคัญและเงื่อนไขที่พักอาศัย ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อค่าครองชีพ เช่น โฮมสเตย์ ห้องเช่าแบบแชร์กันในกลุ่มนักศึกษา หรืออพาทเมนต์ส่วนตัว

สภาพแวดล้อมและความปลอดภัย

ประเด็นนี้ยิ่งเป็นปัจจัยที่ตัดสินได้ยาก หากจะนับจากค่านิยมและความเชื่อที่พูดต่อกันมา คงต้องยกประเด็นความปลอดภัยให้นิวซีแลนด์มาเป็นอันดับหนึ่ง แคนาดาและออสเตรเลียมาเป็นอันดับสอง ในขณะที่เมืองเล็กๆในสหราชอาณาจักรและสหรัฐก็มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงเช่นกัน ที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับทักษะการดำรงชีพของผู้เรียนแต่ละวัย

โอกาสในการศึกษาต่อเนื่องในระดับที่สูงขึ้น

ข้อนี้ไม่น่าเป็นกังวลเพราะทั้งห้าประเทศเจ้าของภาษาที่กล่าวมา ล้วนมีระบบการศึกษาต่อเนื่องจนถึงขั้นสูงสุดที่เป็นที่ยอมรับกันทุกประเทศและระบบการเรียนยังคงใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง

bottom of page